LifeVantage

ศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ LifeVantage : Nrf1 / Nrf2 / MindBody GLP-1 System / ProBio / TrueScience / TrueRenew ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ โทร ☎️ :: 084-110-5021 📍 Line ID :: pla-prapasara 🌸 รับโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะทาง Line ค่ะ

วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2567

มอยส์เจอร์ไรเซอร์ กับเซรั่ม ต่างกันไหม จำเป็นต้องใช้ทั้งคู่หรือเปล่า

 

มอยส์เจอร์ไรเซอร์ กับเซรั่ม ต่างกันไหม จำเป็นต้องใช้ทั้งคู่หรือเปล่า



การบำรุงผิวหน้าคือการช่วยดูแลผิวหน้าให้แข็งแรงและสุขภาพดี โดยการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่างๆ เช่น ครีม โลชั่น เซรั่ม มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ฯลฯ แผ่นมาสก์หน้า เป็นต้น แต่เพราะในแต่ละขั้นตอนของการบำรุงผิวหน้านั้นมีผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด นั่นอาจทำให้หลายๆ คนสับสน อย่างเช่นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ กับเซรั่มนั้นเหมือนกันไหม ต่างกันหรือเปล่า และจำเป็นต้องใช้ทั้งคู่บำรุงผิวหน้าไหม และวันนี้เรามีคำตอบ


มอยส์เจอร์ไรเซอร์ กับเซรั่มแตกต่างกันไหม

มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ต่าง กับเซรั่มอย่างไร

เซรั่มและมอยส์เจอร์ไรเซอร์มีความแตกต่างกัน เซรั่มมีเนื้อสัมผัสที่บางเบาและมีส่วนผสมที่เข้มข้นกว่า มอยส์เจอร์ไรเซอร์มีเนื้อสัมผัสที่หนาขึ้นและมีส่วนผสมที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นและปกป้องผิว เซรั่มมักใช้เพื่อแก้ปัญหาผิวเฉพาะ เช่น ริ้วรอย จุดด่างดำ และสิว มอยส์เจอร์ไรเซอร์ใช้เพื่อเติมความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากสิ่งแวดล้อม

หากคุณมีผิวแห้ง คุณอาจต้องการใช้ทั้งเซรั่มและมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เซรั่มจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวและมอยส์เจอร์ไรเซอร์จะช่วยล็อกความชุ่มชื้นไว้ เซรั่มและมอยส์เจอร์ไรเซอร์มักใช้ร่วมกันเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

หากคุณมีผิวมันหรือผิวผสม คุณอาจต้องการใช้เซรั่มเท่านั้น เซรั่มบางชนิดมีส่วนผสมที่ช่วยควบคุมความมันและรูขุมขนกว้าง เซรั่มสามารถให้ความชุ่มชื้นเพียงพอสำหรับผิวบางประเภท โดยไม่จำเป็นต้องใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์

โดยสรุปแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ทั้งเซรั่มและมอยส์เจอร์ไรเซอร์ คุณควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวและความต้องการของคุณมากที่สุด


มอยส์จอร์ไรเซอร์คืออะไร

การทามอยเจอร์ไรเซอร์

มอยส์เจอร์ไรเซอร์คือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวและปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน ผิวแห้งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าจะมีสภาพผิวแบบไหนก็ตาม อย่างไรก็ตาม คนที่มีผิวแห้งอาจมีอาการที่รุนแรงกว่า เช่น ผิวหยาบกร้าน ลอกเป็นขุย แตกเป็น หรือแดง


ประโยชน์ของมอยส์เจอร์ไรเซอร์มีดังนี้

  • เติมความชุ่มชื้นให้ผิว
  • ปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน
  • เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว
  • ลดอาการระคายเคืองผิว
  • ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์

มอยส์เจอร์ไรเซอร์มีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับส่วนผสมและเนื้อสัมผัส ควรเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมที่เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาผิวของแต่ละคน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ควรใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น หลังจากล้างหน้าและเช็ดหน้าให้แห้ง โดยทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ

เซรั่มคืออะไร

เซรั่มคืออะไร

เซรั่มคือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีเนื้อสัมผัสบางเบาและมีส่วนผสมที่เข้มข้นกว่าผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชนิดอื่นๆ เซรั่มมักใช้เพื่อแก้ปัญหาผิวเฉพาะ เช่น ริ้วรอย จุดด่างดำ และสิว เซรั่มสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึกและเห็นผลลัพธ์ได้เร็วกว่าผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชนิดอื่นๆ


ประโยชน์ของการใช้เซรั่มมีดังนี้

  • เติมความชุ่มชื้นให้ผิว
  • ลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำ
  • ป้องกันการเกิดสิว
  • ปรับปรุงสีผิวให้สม่ำเสมอ
  • ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์



วิธีใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ กับเซรั่มร่วมกัน

  1. ล้างหน้าให้สะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะสมกับสภาพผิว
  2. เช็ดหน้าให้แห้ง
  3. ทาโทนเนอร์ เพื่อปรับสมดุลผิว
  4. ทาเซรั่ม เพื่อบำรุงผิวอย่างล้ำลึก
  5. ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิวและล็อกสารบำรุงจากเซรั่ม

เซรั่มควรทาหลังจากทำความสะอาดผิวและเช็ดหน้าให้แห้ง เพื่อให้ผิวสามารถดูดซึมสารบำรุงได้อย่างเต็มที่ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ควรทาหลังจากทาเซรั่ม เพื่อล็อกสารบำรุงจากเซรั่มและเติมความชุ่มชื้นให้ผิว

สามารถใช้เซรั่มและมอยส์เจอร์ไรเซอร์ได้ทั้งตอนเช้าและตอนเย็น อย่างไรก็ตามควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาผิวของแต่ละคนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด




ที่มา    ::         www.sanook.com/ 

4 ความคิดเห็น:

  1. เซรั่ม (Serum) คืออะไร?

    เซรั่ม (Serum) คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหนังที่มีโมเลกุลขนาดเล็กมาก ลักษณะของเนื้อเซรั่มจะมีความเบาบางกว่าเนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์ประเภทครีม โดยเนื้อของเซรั่มจะสามารถมีความเหลวไปจนถึงกึ่งเหลว ส่วนในเรื่องของสีเนื้อเซรั่มอาจจะมีความใส ความขุ่น หรือมีสี

    ทั้งนี้ก็จะขึ้นอยู่กับส่วนผสม สารสกัด และการออกเเเบบสูตรของเซรั่มแต่ละชนิด สิ่งที่สำคัญของ ผลิตภัณฑ์เซรั่ม คือ จะมีความเข้นข้นของสารออกฤทธิ์สำคัญ (Active Ingredients) ที่สูงกว่าผลิตภัณฑ์บำรุงผิวประเภทอื่นๆ จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการฟื้นบำรุงผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง สามารถใช้ได้ในปริมาณน้อย เพียงไม่กี่หยด

    แต่ยังคงให้ผลลัพธ์ที่ดี และเนื่องจากเซรั่มมีโมเลกุลขนาดเล็กจึงสามารถซึมซามเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วและล้ำลึกถึงระดับโครงสร้างผิว ด้วยเหตุนี้เซรั่มจึงมอบประโยชน์ของสารสกัดและส่วนผสมในการบำรุงต่างๆให้แก่ผิวได้เป็นอย่างดี


    ประโยชน์ของเซรั่ม
    เซรั่ม คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าชนิดหนึ่งที่มีความเข้มข้นของ Active Ingredient หรือสารบำรุงมากกว่าผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทั่วไป มีเนื้อสัมผัสที่บางเบากว่า ทำให้เวลาทาลงบนใบหน้าจะไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ และสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ดีกว่าผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทั่วไปอีกด้วย เนื่องจากเซรั่มมีขนาดของโมเลกุลที่เล็กกว่ามาก จึงสามารถนำพาสารบำรุงให้ซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างล้ำลึกถึงโครงสร้างและเซลล์ผิวเลยทีเดียว

    และด้วยความที่ในเซรั่มเพียงหนึ่งหยดจะมีความเข้มข้นของสารบำรุงมากกว่าในครีมหลายเท่าตัว ทำให้เซรั่มมีประสิทธิภาพในการบำรุงรักษา หรือฟื้นฟูสภาพผิวที่สูงกว่า และยังแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุดมากกว่าการทาครีมเพียงอย่างเดียว เนื่องจากครีมจะมีเนื้อที่หนักกว่า ทำให้สารบำรุงมักจะเคลือบอยู่ที่บริเวณผิวชั้นนอกเพียงเท่านั้น ไม่ได้ซึมลึกเหมือนเซรั่มนั่นเองค่ะ

    เซรั่ม จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่จะต้องการการฟื้นฟูผิวอย่างเร่งด่วนในแบบที่ว่า พรุ่งนี้มีงานสำคัญ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้นอน เพราะมีภารกิจติดพันมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องงาน หรือซีรีส์ที่กำลังเข้มข้นจนหยุดดูไม่ได้ ผิวหน้าจะต้องแย่และแต่งหน้าไม่ติดแน่เลย แนะนำว่าให้ “โบกเซรั่มแล้วไปนอน” เลยค่ะ เมื่อตื่นเช้ามาจะพบกับปาฏิหาริย์ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะคะ เพราะว่าจะพบกับผิวที่อิ่มฟู เปล่งปลั่ง พร้อมสำหรับการแต่งหน้าไปงานสำคัญแล้วล่ะค่ะ ขอบอกเลยว่า ไม่ว่าจะงานไหน ถ้าผิวดีก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วล่ะค่ะ สมกับคำร่ำลือที่ว่า กู้หน้าพัง แก้หน้าโทรมได้อยู่หมัดเลยค่าา !

    ทำไมถึงควรใช้ เซรั่ม (Serum)?
    ก่อนที่เราจะตอบคำถามข้อนี้ว่า ทำไมเราถึงควรใช้เซรั่ม? เราควรเปรียบเทียบเซรั่มกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี ได้แก่ ครีม กันก่อนดีกว่า แน่นอนว่าผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ชนิดนี้ต้องมีความแตกต่างกัน และมีความเหมาะสมในการใช้บำรุงผิวที่ไม่เหมือนกัน ด้วยเหตุนั้นแล้วเราไปทำความรู้จักครีมกันสักอีกนิดก่อน!

    ครีม (Cream) คืออะไร?
    ครีม คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหนังที่มีส่วนประกอบทั้งน้ำมันและน้ำ ผ่านกระบวนการที่รวมเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นเนื้อครีมที่มีความข้น และให้เนื้อสัมผัสเวลาทาลงบนผิวที่หนักกว่าเซรั่ม ลักษณะของเนื้อครีมก็จะมีหลากหลายสัมผัสซึ่งจะแตกต่างกันตามจุดประสงค์ของการใช้งาน เช่น Day Cream สำหรับทาตอนเช้า ก็จะมีเนื้อสัมผัสที่เบาบางกว่า Night Cream สำหรับทาตอนกลางคืน เป็นต้น ในส่วนของเนื้อครีมจะมีสีขุ่นค่อนไปทางขาว แต่อย่างไรก็ตามส่วนผสม สารสกัด และการออกแบบสูตรครีมแต่ละชนิด ก็จะส่งผลต่อสีของเนื้อครีมที่จะมีความแตกต่างกันไป สิ่งสำคัญของผลิตภัณฑ์ประเภทครีมไม่ว่าจะเป็นครีมประเภทไหนก็ตาม จะเน้นไปในเรื่องของการให้ความชุ่มชื้นกับผิว เมื่อเราทาครีมจะสามารถสังเกตเห็นได้ว่า ครีมจะไม่ถูกดูดซึมเข้าไปในผิวหนังทันที เราจะต้องใช้เวลาเกลี่ยเนื้อครีมซักพักนึง และเนื้อครีมจะทำหน้าที่เคลือบผิวภายนอกเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ สำหรับส่วนของสารออกฤทธิ์สำคัญในครีมจะมีน้อยกว่าในเซรั่ม


    ข้อดีของเซรั่ม

    1. เซรั่มเน้นการฟื้นบำรุงแก้ไขปัญหาผิวเฉพาะจุดได้โดยตรง
    2. เซรั่มมีสารบำรุงผิวต่อหยดที่เข้มข้นมาก จึงช่วยแก้ไขปัญหาผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    3. เซรั่มซึมเร็วและลงลึกจึงทำให้มีความสามารถในการบำรุงผิวจากภายในสู่ภายนอก
    4. เซรั่มมีความเบาบาง ไม่เหนียวเหนอะเหนอะ ไม่เน้นการเคลือบผิว ทำให้มีโอกาสน้อยมากในการเกิดการสิว
    5. เซรั่มไม่กีดกันแต่เพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์อื่นที่ใช้ร่วมด้วย


    ข้อดีของครีม

    1. ครีมมีเนื้อสัมผัสที่เหนียวและหนัก ช่วยในเรื่องการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ดี
    2. ครีมทำหน้าที่เป็นฟิล์มคลุมผิวชั้นนอก ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำออกจากผิว
    3. ครีมมีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ประเภทเซรั่ม
    4. ครีมเหมาะกับคนที่มีผิวแห้ง

    ตอบลบ
  2. วิธีการเลือกใช้ระหว่างเซรั่มกับครีมง่ายๆ

    - ครีม เหมาะกับผู้ที่ต้องการเพิ่มหรือแก้ไขปัญหาความชุ่มชื้นของผิว
    - เซรั่ม เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาผิวเฉพาะจุดให้ได้อย่างตรงจุด

    เซรั่มเหมาะกับผู้ใช้ประเภทไหน?

    เซรั่มมีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้งาน ที่ตอบโจทย์ในการเเก้ปัญหาดูแลผิวเฉพาะจุดอย่างเจาะจง เพราะเซรั่มมีส่วนผสมของสารสำคัญที่เข้มข้น พร้อมทั้งมีขนาดโมเลกุลเล็กมาก ทำให้ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ตรงเข้าไปแก้ไขปัญหาผิวได้จากภายใน


    ประเภทของเซรั่ม

    - เซรั่มช่วยกระชับรูขุมขน (Pore Tightening Serum)
    - เซรั่มช่วยป้องกันสิวและลดรอยดำจากสิว (Anti-Acne Serum)
    - เซรั่มช่วยลดริ้วรอย (Anti-Aging Serum)
    - เซรั่มช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลบเลือนจุดด่างดำ (Skin-Brightening Serum)
    - เซรั่มช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นรักษาผิวแห้งจากภายใน (Hydrating Serum)
    - เซรั่มช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวแบบองค์รวม (Renewing Serum)
    - เซรั่มช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว (Exfoliating Serum)

    เซรั่มที่ดีเหมาะกับคุณ คือ เซรั่ม ที่มาจากสารสกัดธรรมชาติ ปลอดภัยปราศจากสารต่างๆที่มีโอกาสทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว และมีการนิยามการดูแลแก้ปัญหาผิวของคุณอย่างชัดเจน ซึ่งหากคุณมีหลายปัญหาผิวที่ต้องการดูแล เราขอแนะนำเซรั่มบำรุงผิวหน้าของเรา เซรั่มที่รวบรวมสารสกัดต่างๆเพื่อแก้ไขและฟื้นฟูให้ผิวหน้าสุขภาพดีขึ้น


    วิธีใช้เซรั่มให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

    1. ทำความสะอาดผิวให้เรียบร้อย เนื่องจากเซรั่มมีโมเลกุลขนาดเล็ก เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการดูดซึมเข้าสู่ผิวที่ดีที่สุด เราควรทำความสะอาดผิวหน้าให้เรียบร้อย ขจัดสิ่งสกปรกที่ติดค้างอยู่บนผิวหน้า เช่น เครื่องสำอาง น้ำมันเหงื่อไคล ที่ปิดบังรูขุมขนด้วยการชำระล้างให้สะอาดหมดจด และจะดียิ่งขึ้นไปกว่านั้นอีก หากเราสามารถล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ดีต่อสภาพผิวหน้า (อย่าลืม! ล้างหน้าและเช็ดใบหน้าด้วยความอ่อนโยน อย่าถูใบหน้าแรงเกินไป เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหน้าได้)
    2. ลงเซรั่มขณะผิวกำลังชื้น ผิวที่ชื้นจะช่วยให้เซรั่มซึมผ่านผิวได้ง่ายกว่าผิวที่แห้งถึง 10 เท่า เพราะฉะนั้นเราควรลงเซรั่มหลังจากอาบน้ำหรือหลังการใช้โทนเน่อร์แบบปราศจากแอลกอฮอล์ทันที
    3. ใช้เซรั่มเพียง 2-3 หยด ก็พอบำรุงทั่วทั้งหน้า เซรั่มมีโมเลกุลขนาดเล็กและมีความเข้มข้นสูงมาก ดังนั้นใช้เพียงแค่ 2-3 หยดเท่าเมล็ดถั่ว ก็เพียงพอต่อความต้องการบำรุงใบหน้า เราเพียงแค่ต้องกระจายเนื้อเซรั่มให้ทั่วทั้งหน้า โดยการลงเซรั่มที่ตำแหน่งสำคัญ เช่น หน้าผ้า แก้มทั้ง 2 ข้าง และเกลี่ยเซรั่มให้กระจายเท่าทั่วกัน
    4. ใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นหลังลงเซรั่มได้ทันที หากต้องใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลายประเภท เราควรใช้เซรั่มเป็นอันดับแรก เนื่องจากเซรั่มจะมีความเบาบางมากกว่าสกินแคร์อื่นๆ การลงผลิตภัณฑ์อื่นๆที่เนื้อหนักกว่าก่อนเซรั่ม จะทำให้เซรั่มไม่สามารถซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ดี เนื่องจากผิวหนังถูกอุดกลั้นเคลือบด้วยผลิตภัณฑ์อื่นๆไปเเล้ว ดังนั้นเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีที่สุด อย่าลืมที่จะลงเซรั่มเป็นอันดับเเรก และหลังจากใช้เซรั่มผิวของคุณจะยังคงความชื้นอยู่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมของผิวหนังต่อผลิตภัณฑ์อื่นๆให้ดีขึ้นได้อีกด้วยมาถึงจุดนี้คุณน่าจะพอทราบว่า ปัญหาผิวหน้าที่คุณเผชิญอยู่ตอนนี้เหมาะกับการบำรุงด้วยเซรั่มหรือไม่ และหาก “ใช่” หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณหันมาใช้เซรั่มด้วยความมั่นใจขึ้นนะ

    ตอบลบ
  3. อยากหน้าใสอย่างเป็นธรรมชาติ ทำยังไงดี?
    เราเชื่อว่าทุกคนต่างก็อยากมีผิวหน้าที่ดูสุขภาพดีและไม่หมองคล้ำ แต่การโบกเครื่องสำอางอย่างเดียวก็เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุและอาจทำให้หน้าขาววอกอย่างไม่เป็นธรรมชาติสุดๆ เพราะฉะนั้นมาดูวิธีการที่ทำให้ราสวยจากภายในไปสู่ภายนอกกันดีกว่าค่ะ เคล็ดลับหน้าใสนั้นไม่มีอะไรยากเลย

    ไม่นอนดึก เพราะการนอนดึกจะทำให้ร่างกายเสื่อมโทรมและผิวหน้าหมองคล้ำ ร่างกายต้องการพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อสุขภาพที่ดี
    ออกกำลังกายเป็นประจำ การออกกำลังกายจะทำให้เลือดสูบฉีดดีและผิวหน้าเปล่งปลั่งอมชมพู
    ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว การดื่มน้ำนอกจากจะทำให้ผิวชุ่มชื่นแล้วยังช่วยขับถ่ายของเสียออกไปได้เป็นยังดี และยังช่วยให้ผิวเต่งตึงอีกด้วยนะ
    ทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจด เพราะแต่ละวันใบหน้าต้องเผชิญกับสิ่งสกปรกและมลภาวะต่างๆมากมาย หากเราทำความสะอาดได้ไม่ดีพอก็จะทำให้เกิดสิ่งตกค้างและมีสิวอุดตันขึ้นได้
    หลังจากล้างหน้าทุกครั้งควรทาครีมบำรุงผิวทุกครั้ง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นและเป็นการบำรุงผิวหน้า
    เลือกใช้เซรั่มหน้าใสที่เหมาะกับคุณ เพราะตัวเซรั่มจะเป็น essence เข้มข้นที่ช่วยเติมสารอาหารและวิตามินให้ผิวหน้าได้เป็นอย่างดี ทางเลือกนี้เหมาะกับคนที่ต้องการหน้าใสเร็วๆ productnation

    เคยได้ยินประโยคที่ว่า “เป็นผู้หญิงอย่าหยุดรวย เพราะความสวยต้องใช้ตัง” กันรึเปล่าคะ? ไม่ได้จะมาแก้ต่างแต่อย่างใด จะมาคอนเฟิร์มว่าเป็นเรื่องจริงค่ะ ไม่ว่าจะเป็น โทนเนอร์ เซรั่ม มอยเจอร์ไรเซอร์ กระปุกเล็กกระปุกน้อยต่าง ๆ นานา ที่คุณผู้ชายทั้งหลายจะต้องคิดไม่ถึงแน่ ๆ ว่าสกินแคร์ที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งของคุณแฟนนั้น ราคากับปริมาณสวนทางกันเป็นอย่างมาก ที่เห็นว่าขวดจิ๋ว ๆ แต่ราคาไม่จิ๋วเลยล่ะค่ะ โดยเฉพาะสิ่งที่เรียกว่า “เซรั่มบำรุงผิวหน้า” นี่แหละค่ะ !

    สำหรับผู้หญิงที่เริ่มเข้าสู่วงการสกินแคร์ นอกจากครีมบำรุงต่าง ๆ ก็จะเริ่มมองหาสิ่งที่แอดวานซ์มากยิ่งขึ้น อย่างเช่น เซรั่มบำรุงผิวหน้า มาเป็นตัวช่วยในการบำรุงและดูแลผิวหน้าของเราให้สวยงามเปล่งปลั่งแบบลืมอายุไปเลย และที่สำคัญสาว ๆ หลายคนก็ทำงานหนักมากจนผิวทรุดโทรม มาซื้อเซรั่มบำรุงผิวหน้าดี ๆ สักขวดเป็นของขวัญให้ตัวเองกันดีกว่า เอ…แต่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อยี่ห้อไหนใช่มั้ยคะ เพราะมีมากมายหลายแบรนด์จนเลือกไม่ถูกเลยจริง ๆ แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ ไปดูกันเลยค่ะ

    การเลือกซื้อเซรั่มให้เหมาะกับสภาพผิว
    หลักในการเลือกซื้อเซรั่มก็จะต้องคำนึงถึงสภาพผิวของเราเป็นหลักค่ะ เพราะสภาพผิวแต่ละแบบจะต้องการการดูแลและมีปัญหาผิวที่แตกต่างกัน เพื่อให้การลงทุนกับเซรั่มหนึ่งขวดมีความคุ้มค่า และสามารแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุดมากที่สุด ก็จะต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวของเรานั่นเองค่ะ โดยสามารถแบ่งประเภทของผิวได้ ดังนี้

    ผิวธรรมดา : ผิวที่มีความสมดุลกันระหว่างความมันและความชุ่มชื้นบนใบหน้า หากจะมีความมันก็จะมีแค่เพียงเล็กน้อยบริเวณ T-zone เท่านั้น จะเรียกผิวประเภทนี้ว่าเป็นผิวสุขภาพดีเลยก็ได้ค่ะ เพราะแทบจะไม่มีปัญหาผิวอะไรมากวนใจ และด้วยความผิวที่แข็งแรงมาก ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดอาการแพ้ต่ำ จะใช้สกินแคร์ตัวไหนก็ดีงามไปหมดเลย น่าอิจฉามาก ๆ เลยค่ะ

    ผิวแห้ง : ผิวที่ผลิตความมันได้น้อย ซึ่งเกิดจากการขาดน้ำภายในชั้นผิว และขาดกรดไขมันที่จำเป็นต่อการรักษาความชุ่มชื้น หากผิวแห้งมากเกินไปจะทำให้เกิดริ้วรอย หยาบกร้าน ไม่เนียนนุ่ม หรืออาจลอกเป็นขุยได้เลยค่ะ แนะนำให้เลือกเซรั่มที่มีส่วนผสมของสารที่เพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นให้แก่ผิวค่ะ หลีกเลี่ยงเซรั่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ผิวยิ่งแห้ง

    ผิวมัน : ผิวมันเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมน ความเครียด หรือการที่ผิวขาดน้ำมากเกินไป จึงมีการผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ ผิวประเภทนี้จะมีรูขุมขนที่กว้าง ทำให้เสี่ยงต่อการอุดตันและการเกิดสิว แนะนำให้เลือกเซรั่มที่ช่วยปรับสมดุลให้ผิว และมีเนื้อบางเบา หลีกเลี่ยงกลุ่มที่มีเนื้อน้ำมัน เพราะเสียงต่อการอุดตันค่ะ

    ผิวแพ้ง่าย : เป็นผิวที่ค่อนข้างบอบบางและไวต่อสารเคมี แนะนำให้เลือกเซรั่มที่ไม่มีส่วนผสมจาก แอลกอฮอล์ และน้ำหอม เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย ให้เลือกกลุ่มเซรั่มที่มีวิตามินเป็นส่วนผสม เพราะจะช่วยเสริมสร้างให้ผิวมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

    ตอบลบ
  4. ขั้นตอนการลงเซรั่ม
    การลงเซรั่มง่ายมากค่ะ ไม่มีอะไรยุ่งยากเลย แค่เตรียมผิวและเซรั่มให้พร้อม แล้วมาดูขั้นตอนการลงเซรั่มกันเลยค่ะ

    เริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดผิวหน้า – ทำความสะอาดผิวหน้าให้เรียบร้อย หากมีการแต่งหน้าให้เช็ดเครื่องสำอางออกให้หมดก่อน เช็ดจนสำลีไม่มีสีของเครื่องสำอางติดออกมาเลยนะคะ จากนั้นก็ไปล้างหน้าด้วยคลีนซิ่งตัวโปรดได้เลยค่ะ

    เตรียมผิวให้พร้อมรับสกินแคร์ – หากมีโทนเนอร์ หรือน้ำตบก็ให้ใช้ในขั้นตอนนี้ได้เลย เพราะโทนเนอร์จะช่วยทำความสะอาดให้ผิวของเราอีกขั้น ส่วนน้ำตบก็จะช่วยเตรียมผิวให้มีความพร้อมต่อการลงเซรั่ม ทำให้ผิวดูดซึมเซรั่มได้ดียิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ

    ลงเซรั่มได้เลย – หลังจากใช้น้ำตบแล้วให้ลงเซรั่มได้เลยค่ะ โดยหลักในการลงเซรั่มให้สาว ๆ นึกถึง 3 คำนี้ไว้นะคะว่า “น้อยแต่มาก” เพราะทาเพียงแค่นิดเดียวก็ให้ประสิทธิภาพสูงมาก ก.ไก่ล้านตัว (หรือจะคิดว่าแพงมากก็ได้เช่นกันค่ะ) และส่วนใหญ่เซรั่มจะมาในรูปแบบของหัวดรอป ซึ่งปริมาณหนึ่งดรอปหรือหนึ่งปั๊มก็เพียงพอต่อการทาในหนึ่งครั้งแล้วค่ะ ทาเยอะเกินไปนอกจากจะเปลืองแล้ว สำหรับคนผิวมันก็เสี่ยงต่อการอุดตันด้วยค่ะ

    ทริคเล็ก ๆ แต่ไม่ลับ ในการเซรั่ม – แนะนำว่าให้แต้มเซรั่มบริเวณหน้าผาก จมูก คาง และแก้มทั้ง 2 ข้าง จะทำให้สามารถลงเซรั่มได้อย่างทั่วถึงค่ะ จากนั้นใช้ปลายนิ้วนวดเบา ๆ ให้เซรั่มซึมลงผิว และไม่ลืมทาไปที่คอด้วยนะคะ ใช้วิธีลูบขึ้นอย่างเบามือ เพื่อป้องกันการเกิดรอยเหี่ยวย่น หน้าตึง สวยเด้ง แต่คอเหี่ยวนี่ดูไม่งามเลย เพราะการเหี่ยวย่นที่คอจะเป็นตัวบ่งบอกอายุของเราได้เลยล่ะค่ะ

    เซรั่มใช้ตอนไหนถึงจะดีที่สุด?
    เชื่อว่าสาว ๆ ที่พึ่งเริ่มสนใจการดูแลผิวจะต้องรู้สึกงงกับลำดับของการลงสกินแคร์แน่ ๆ เลยว่า จะต้องทาตัวไหนก่อน? เอาผสมกันทั้งหมดแล้วทาทีเดียวเลยได้มั้ย ใครทำแบบนี้จะต้องโดนตีมือสิบทีเลยนะคะ เพราะหลักในการลงสกินแคร์นั้นง่ายแสนง่าย เพื่อให้สกินแคร์ที่เราใช้ได้ผลลัพธ์สูงสุด ให้สาว ๆ จำไว้ว่า เรียงจากเบาไปหนักค่ะ ซึ่งก็คือเราจะลงสกินแคร์ที่มีเนื้อสัมผัสบางเบาก่อนแล้วค่อยลงสกินแคร์ที่มีเนื้อหนัก แล้วเซรั่มก็ที่มีเนื้อจะเหลวก็ไม่เหลว จะข้นก็ไม่ข้น นี่จะต้องลงตอนไหนคะ? มาดูกันตรงนี้เลยค่ะ

    ลำดับของการลงสกินแคร์จะเป็นอย่างนี้ค่ะ เริ่มต้นที่โทนเนอร์ > น้ำตบ > เซรั่ม > ครีม หากเป็นตอนกลางวันจะต้องไม่ลืมทากันแดดปิดท้ายนะคะ ส่วนใครที่มีการรักษาสิวอยู่ ในทายาสิวก่อนเป็นอันดับแรก แล้วค่อยตามด้วยสกินแคร์ค่ะ เพื่อน ๆ จะเห็นได้ว่าเซรั่มจะอยู่ระหว่างน้ำตบกับครีม เพราะเซรั่มจะมีเนื้อที่ข้นกว่าน้ำตบ แต่ก็ยังไม่หนักเท่ากับครีม ตรงนี้สำคัญค่ะ ขีดเส้นใต้เอาไว้เลยว่า เซรั่มต้องลงก่อนครีมเท่านั้น! หนึ่งเพราะครีมมีเนื้อที่หนากว่า สองเพราะครีมจะช่วยเก็บกักสารบำรุงที่เราทาไว้ไม่ให้ระเหยและล่องลอยไปจากผิวหน้าของเรานั่นเองค่ะ

    ตอบลบ

TrueScience® Perfecting Lotion (เพอร์เฟ็คติ้ง โลชั่น)

  TrueScience ®  Perfecting Lotion เพอร์เฟ็คติ้ง โลชั่น คืนความสดใส ความมีชีวิตชีวา เปล่งประกาย, ความชุ่มชื้นของผิวหน้า และโทนผิวที่สม่ำเสมอ...