วิธีใช้ "เซรั่ม" เคล็ดลับบำรุงผิวให้มีสุขภาพดีง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอน
"เซรั่ม" ผลิตภัณฑ์เพื่อความงามที่หลายคนขาดไม่ได้ เพราะมีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวล้ำลึกมากกว่าการทาครีมทั่วไป ทั้งผู้หญิงและผู้ชายก็สามารถใช้เซรั่มเป็นตัวช่วยดูแลผิวพรรณได้เช่นกัน เพราะปัจจุบันมีหลายสูตรให้เลือกใช้ ตอบโจทย์ทุกปัญหาผิว แต่การจะใช้เซรั่มให้ได้ผลที่สุด ก็จำเป็นต้องรู้วิธีใช้ที่ถูกต้อง
รู้จัก "เซรั่ม" (Serum) คืออะไร จำเป็นแค่ไหนในการบำรุงผิว?
เซรั่ม คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีขนาดโมเลกุลเล็กมาก เนื้อสัมผัสจะเบาบาง มีลักษณะเป็นของเหลวใสๆ อาจจะมีสีขุ่นๆ รวมไปถึงมีสีสันต่างๆ ตามส่วนผสมและสารสกัดที่ใช้ เซรั่มมีจุดเด่นที่ความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์สำคัญ (Active Ingredients) ซึ่งมีประสิทธิภาพช่วยฟื้นฟูบำรุงผิวได้ล้ำลึก ด้วยการใช้ในปริมาณเพียง 2-3 หยดเท่านั้น
ปัจจุบัน มีการผลิตภัณฑ์เซรั่มผิวออกมาหลากหลายสูตร โดยเฉพาะเซรั่มบำรุงผิวหน้า เพื่อให้แต่ละคนเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิวของตนเอง ช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น เช่น เซรั่มเพื่อผิวกระจ่างใส, ลดเลือนจุดด่างดำ, ลดเลือนริ้วรอย, กระชับรูขุมขน เป็นต้น
ประโยชน์ของเซรั่ม คือ การซึมลึกลงไปยังผิวชั้นใน เพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวอย่างอ่อนโยน และปกป้องผิวให้มีความแข็งแรงมากขึ้น นอกจากใช้เซรั่มบำรุงผิวหน้าทั่วไปแล้ว วิธีใช้เซรั่มสำหรับผู้ชาย ยังช่วยลดอาการระคายเคืองของผิวจากการโกนหนวดได้อีกด้วย

"เซรั่ม" ต่างจาก "ครีม" อย่างไร?
แม้ว่าทั้งเซรั่มและครีมจะมีหน้าที่ในการช่วยดูแลบำรุงผิวพรรณ แต่ก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ซึ่งหากรู้ไว้ก็จะช่วยให้เราเรียงลำดับการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้การดูแลผิวพรรณมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง
- เซรั่ม : เป็นสารบำรุงที่มีความเข้มข้น ซึมเข้าสู่ผิวเร็ว บางเบา ใช้ในปริมาณน้อย แก้ปัญหาและฟื้นฟูผิวได้ตรงจุด เน้นการบำรุงผิวจากภายใน แทรกซึมผ่านผิวได้ล้ำลึก ผลิตภัณฑ์เซรั่มจะมีราคาค่อนข้างสูง
- ครีม : มีเนื้อสัมผัสที่หนักกว่าเซรั่ม แก้ปัญหาผิวโดยรวม บำรุงผิวชั้นนอก ช่วยให้ความชุ่มชื้น ไม่ทำให้ผิวแห้ง อาจต้องใช้ปริมาณเยอะในการทำบำรุงผิวหน้า แต่ครีมส่วนใหญ่จะมีราคาไม่แพงเท่ากับเซรั่ม

วิธีใช้เซรั่ม ควรใช้ตอนไหนให้ได้ประสิทธิภาพที่สุด (สำหรับผู้หญิงและผู้ชาย)
สำหรับคนที่อยากหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ แต่ก็สงสัยว่าเซรั่มใช้ยังไง ใช้ตอนไหนให้ได้ผลดีที่สุด ผู้ชายใช้ได้หรือไม่? คำตอบคือ ไม่ว่าจะผู้หญิง ผู้ชาย หรือเพศไหน ก็สามารถใช้เซรั่มผิวเพื่อดูแลผิวพรรณได้ ส่วนวิธีใช้นั้นง่ายมาก เพียงแค่รู้ลำดับขั้นตอนการใช้ ก็สามารถบำรุงผิวหน้าได้แล้ว ดังนี้
1. ทำความสะอาดหน้าเพื่อเตรียมผิว
เรียกว่าเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดที่ไม่ควรมองข้าม หลังอาบน้ำควรล้างหน้าเพื่อขจัดสิ่งสกปรกติดค้าง หลังจากนั้นเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน เพื่อเปิดรูขุมขน ไม่ถูแรงจนเกินไป ซึ่งในขั้นตอนที่ผิวหน้ากำลังชุ่มชื้นคือ การเตรียมผิวที่ดีที่สุด ในขั้นตอนนี้สามารถใช้เอสเซนส์บำรุงเพื่อฟื้นฟูเซลล์ผิวได้ด้วย
2. เริ่มทาเซรั่มบนผิวหน้า
การใช้เซรั่มในขณะที่ผิวกำลังชุ่มชื้น จะช่วยให้สารบำรุงซึมลึกลงสู่ชั้นในของผิวได้ดีกว่าตอนที่ผิวหน้าแห้ง โดยบีบเซรั่มจากหลอด ให้มีขนาดเท่าเมล็ดถั่ว เพียง 2-3 หยด หลังจากนั้นใช้ปลายนิ้วเกลี่ยให้ทั่วใบหน้า เริ่มจากจุดกลางหน้าผาก จมูก ปลายคาง และแก้มทั้ง 2 ข้าง นวดเบาๆ ให้เนื้อเซรั่มกระจายทั่วใบหน้าและลำคอ

3. ทามอยส์เจอไรเซอร์ หรือสกินแคร์อื่นๆ
หลังจากทาเซรั่มแล้ว ควรรอสัก 5 นาที เพื่อให้สารบำรุงซึมลงสู่ผิวชั้นใน แล้วค่อยทามอยส์เจอไรเซอร์ ซึ่งหลายคนอาจลำดับสับสน ให้จำไว้เสมอว่า "ลงเซรั่มก่อนมอยส์เจอไรเซอร์" เนื่องจากเซรั่มมีความบางเบาที่สุด ส่วนมอยส์เจอไรเซอร์มีความเข้มข้นกว่า จะช่วยล็อกความชุ่มชื้นของชั้นผิวไว้ได้ หรือไม่ว่าจะใช้ครีมบำรุงและสกินแคร์ชนิดไหน ก็ควรทาตัวที่มีเนื้อครีมหนักเป็นลำดับหลังๆ เพื่อให้การบำรุงมีประสิทธิภาพสูงสุด
การเลือกเซรั่มที่ดี ควรเลือกใช้ของผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ปลอดภัยจากสารปรอทและส่วนผสมที่เป็นอันตราย ใครที่แพ้ง่ายก็ควรหันมาใช้เซรั่มสูตรอ่อนโยน มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ไร้สีและกลิ่น โดยต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพปัญหาผิวของตนเอง ที่สำคัญอย่าลืมดูแลสุขภาพและร่างกาย ด้วยการรับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำสะอาด ออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ
ที่มา :: www.thairath.co.th
ประโยชน์ของการใช้ "เซรั่ม" เพื่อผิวหน้าสวยใสอย่างสมบูรณ์แบบ
ตอบลบผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่คุ้นหูกันอย่างเซรั่ม แม้จะเป็นตัวช่วยบำรุงผิวอีกทางเลือกหนึ่งที่หลายคนใช้ แต่จะรู้กันหรือไม่ว่าเซรั่มกับครีมทาผิวทั่วไป มีความแตกต่างกันอย่างไร เห็นว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีหลากหลายสรรพคุณ ไม่ว่าจะเป็นสูตรหน้าใส สูตรลดริ้วรอย สูตรคงสภาพผิวให้แลดูอ่อนวัย หรือสูตรอื่นใดก็ตาม ลองมาทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์นี้ให้มากขึ้นกันสักหน่อย พร้อมคุณสมบัติที่จะช่วยให้สาวๆ หมดข้อสงสัยกันดีกว่า
เซรั่ม คืออะไร
เซรั่มเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีเนื้อสัมผัสบางเบากว่าครีมทาผิวทั่วไป ซึ่งมีส่วนผสมที่ออกฤทธิ์ต่อต้านสารอนุมูลอิสระ มีกรดและวิตามินที่สำคัญ เป็นอาหารบำรุงผิวอยู่ในปริมาณที่มากกว่าครีม ส่วนผสมที่มีอยู่ในเซรั่มจะช่วยเพิ่มคอลลาเจนและความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังสามารถซึมซับเข้าสู่ผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก เป็นอีกหนึ่งสูตรหน้าใสที่สาวๆ ส่วนใหญ่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้เพื่อบำรุงผิวหน้า เห็นผลลัพธ์ได้ดีเยี่ยมกว่า แต่ก็ตามมาด้วยราคาที่สูงขึ้นเช่นกัน
ประโยชน์ของเซรั่ม
ประโยชน์ของการใช้เซรั่มคือ เนื้อเซรั่มที่สามารถซึมซาบลงสู่ผิวได้เร็ว มีคุณสมบัติสามารถจัดการปัญหาผิวหน้าที่อยู่ลึกกว่าชั้นหนังกำพร้าได้เป็นอย่างดี เช่น สีผิวที่หมองคล้ำ และริ้วรอยลึก นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวมีความเรียบเนียนด้วยสารอาหารเป็นส่วนประกอบในเซรั่มที่มีอยู่หลายชนิดเข้าไปช่วยฟื้นฟูผิว ทำให้ผิวกระจ่างใสมากขึ้น อีกทั้งยังโมเลกุลมีขนาดเล็ก จึงซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวได้ง่าย ทำให้ผิวได้รับประโยชน์ไปแบบเต็มๆ ดังนั้นหากใครกำลังพบเจอปัญหาผิวที่แก้ยากอยู่ล่ะก็ ลองหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ฉบับพิเศษตัวนี้กันดู รับรองว่าปัญหาเหล่านี้จะหมดไป แถมยังเพิ่มความเปล่งประกายให้ผิวสาวดูสวยเจิดจรัสอีกด้วย
วิธีการใช้เซรั่มให้ได้ประสิทธิภาพ
ก่อนการทาเซรั่มลงบนใบหน้า สาวๆ จะต้องทำความสะอาดผิวให้เรียบร้อยเสียก่อน จากนั้นจึงหยดเซรั่มลงบนฝ่ามือที่ทำความสะอาดแล้วเพียง 1-2 หยดเท่านั้น เนื่องจากเซรั่มมีส่วนผสมที่เข้มข้นมากพออยู่แล้ว จากนั้นทาเซรั่มให้ทั่วใบหน้า ค่อยๆ เกลี่ยเน้นส่วนที่มีปัญหาผิวมากเป็นพิเศษ เสร็จแล้วนวดให้ทั่วทั้งผิวหน้าและลำคอ
ด้วยเนื้อสัมผัสที่มีความบางเบาย่อมทำให้สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ก่อให้เกิดความเหนียวเหนอะหนะบนใบหน้า เท่านี้เซลล์ผิวก็จะได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างเต็มที่ ที่สำคัญควรใช้เซรั่มควบคู่กับครีมบำรุงผิวไปด้วย รับรองว่าใบหน้าของสาวๆ จะต้องแลดูสุขภาพดี อ่อนกว่าวัยและดูขาวใสเป็นธรรมชาติมากขึ้นในเร็ววันแน่นอน
ใครที่เห็นประโยชน์ของเซรั่มกับสูตรหน้าใสที่มาพร้อมคุณสมบัติอันหลากหลายของการดูแลผิวเช่นนี้ ลองเปลี่ยนจากการใช้ครีมธรรมดาที่อาจส่งผลให้ผิวระคายเคือง เพราะระดับความหนาและเนื้อครีมที่มีโมเลกุลใหญ่ มาใช้เซรั่มที่อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญ เพื่อจะได้ตรงเข้าบำรุงผิวอย่างตรงจุด แล้วสาวๆ จะหลงรักผลิตภัณฑ์ความงามชิ้นนี้ได้มากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอนค่ะ
Serum เซรั่มคืออะไร ประโยชน์และวิธีการใช้ให้เห็นผล
ตอบลบปัญหาผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น ริ้วรอยบนใบหน้า ผิวหมองคล้ำไม่กระจ่างใส หรือแม้แต่ปัญหาผิวมันที่สุดแสนจะลำบากใจ ทุกปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นล้วนเป็นปัญหายอดฮิตที่สาว ๆ อย่างพวกเราหลายคนเคยได้พบเจอมากับตัว แต่สาว ๆ รู้มั้ยว่าปัญหาจุกจิกเหล่านี้ที่รบกวนใจพวกเราสามารถจัดการได้ด้วยไอเท็มสกินแคร์แสนวิเศษที่เรียกว่า “เซรั่ม” นั่นเอง!! โดยในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกันมากขึ้นกับเจ้า “เซรั่ม” ที่จะช่วยให้ใบหน้าของเราดูสดใสเยาว์วัยและเปล่งปลั่ง
เซรั่มคืออะไร ?
เซรั่ม (Serum) คือ สกินแคร์ดูแลผิวหน้าชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นของเหลวหรือกึ่งของเหลวที่เข้มข้นไปด้วยสุดยอดสารบำรุงผิว ที่จะช่วยบำรุงฟื้นฟูใบหน้าของเราอย่างเต็มประสิทธิภาพ เซรั่มมีส่วนประกอบที่เป็นโมเลกุลขนาดเล็กที่มีคุณภาพสูง โดยสีของเนื้อเซรั่มนั้นอาจมีความแตกต่างกันบ้างขึ้นอยู่กับส่วนผสมของสารสกัดต่าง ๆ ของแต่ละสูตร
ความพิเศษของเซรั่มคือจะมีเนื้อสัมผัสที่เบาบางไม่เหนียวเหนอะหนะ และมีความสามารถในการซึมซาบลงสู่ผิวหน้าอย่างรวดเร็วโดยการใช้แค่ไม่กี่หยด ทำให้เซรั่มนั้นมีประสิทธิภาพในการบำรุงผิวสูงกว่าครีมหรือโลชั่นบำรุงผิวทั่วไปนั่นเอง
ประโยชน์และข้อดีของการใช้เซรั่ม
ด้วยความที่เซรั่มนั้นประกอบไปด้วยสารบำรุงเข้มข้นมากมาย การใช้เพียงไม่กี่หยดและเกลี่ยกระจายให้ทั่วใบหน้าจะช่วยให้เซรั่มมอบคุณประโยช์นให้เราได้มากมายดังนี้
🔴 เติมความชุ่มชื้นให้กับผิว หนึ่งในหน้าที่สำคัญของเซรั่มคือการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าของเรา โดยเซรั่มจะช่วยให้ผิวหน้าได้รับความชุ่มชื้นอย่างเพียงพอ ช่วยผิวหน้าสาว ๆ ดูฉ่ำน้ำ อ่อนเยาว์ สุขภาพดี
🔴 กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิว หนึ่งในส่วนประกอบของเซรั่มคือ “วิตามินซี” ที่จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ช่วยให้ผิวของสาว ๆ ดูเต่งตึงกระชับและเรียบเนียนมากขึ้น
🔴 ลดเลือนริ้วรอยก่อนวัย ผิวหน้าของเราที่ได้รับการบำรุงจากสารบำรุงเข้มข้นในเซรั่มจะมีสุขภาพที่ดีขึ้น ริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ จะค่อย ๆ จางลงในที่สุด
🔴 ยกกระชับผิวหน้า อีกหนึ่งผลลัพธ์จากการที่ผิวมีการสร้างคอลลาเจนมากขึ้น คือความกระชับเต่งตึงของผิวหน้าอันแสนสวยงดงามของเรา
ประเภทของเซรั่ม
แม้คุณประโยช์นหลักของเซรั่มจะเป็นการเติมความชุ่มชื้นและบำรุงผิวหน้าของเราอย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่เซรั่มก็ยังมีการแยกย่อยเป็นอีกหลายประเภทเพื่อการบำรุงอย่างเฉพาะทางด้วยเช่นกัน โดยประเภทต่าง ๆ ของเซรั่มมีดังนี้
1. เซรั่มช่วยลดริ้วรอย (Anti-Aging Serum) จะเน้นไปที่การเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้า ช่วยหน้าดูเด็กลง
2. เซรั่มแอนติออกซิแดนซ์ (Antioxidant Serum) เป็นเซรั่มที่มีสารแอนติออกซิแดนซ์ ช่วยปกป้องลดการทำร้ายผิว ต้านอนุมูลอิสระ
3. เซรั่มช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น (Hydrating Serum) เป็นเซรั่มที่อุดมไปด้วยสารกักเก็บความชุ่มชื้น ไฮยาลูรอน ช่วยผิวชุ่มชื้นยาวนาน
4. เซรั่มลดจุดด่างดำ ปรับสีผิว เป็นเซรั่มที่มีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์หรือกรดอัลฟ่าไฮดรอกซี วิตามินบี ที่จะช่วยเพิ่มเกราะป้องกันให้กับผิวของเรา พร้อมช่วยลดริ้วรอยต่าง ๆ
5. เซรั่มช่วยให้ผิวกระจ่างใส (Brightening Serum) เป็นเซรั่มที่มีส่วนผสมของวิตามินซีจำนวนมาก ช่วยบำรุงผิวที่หมองคล้ำให้กลับมากระจ่างใส
6. เซรั่มผลัดเซลล์ผิว (Exfoliating Serum)เป็นเซรั่มที่มีส่วนผสมของกรดไกโคลิค ช่วยในด้านการผลัดเซลล์ผิวเก่า เผยเซลล์ผิวใหม่ที่กระจ่างใสมากกว่าเดิม
7. เซรั่มยกกระชับ (Firming Serum) เป็นเซรั่มที่มีส่วนผสมของอนุพันธ์วิตามิน เอ หริอ เรตินอยล์ ช่วยกระตุ้นการสร้างเสริมคอลลาเจน ช่วยให้ผิวกระชับยิ่งขึ้น
8. เซรั่มช่วยกระชับรูขุมขน (Pore Tightening Serum) เป็นเซรั่มช่วยให้รูขุมขนกระชับยิ่งขึ้นด้วยสารบำรุงที่อุดมไปด้วยไฮยาลูรอนและวิตามิน บี 3 ช่วยผิวชุ่มชื้นอิ่มน้ำ
9. เซรั่มช่วยป้องกันสิว (Anti-Acne Serum) เป็นเซรั่มที่มีส่วนผสมของแร่ธาตุสังกะสี ช่วยลดการสิวและป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย และยังช่วยลดความมันบนผิวหน้า
10. เซรั่มช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟู (Renewing Serum) เป็นเซรั่มที่มีส่วนผสมของวิตามิน บี 5 ที่ทำหน้าที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นพร้อมทั้งปกป้องผิว ช่วยผิวเนียนนุ่มเพิ่มความยืดหยุ่นและพัฒนาเซลล์ผิวให้มีสุขภาพดียิ่งขึ้น
ความแตกต่างระหว่าง เซรั่ม กับ ครีมบำรุงผิวหน้า
ตอบลบจุดเด่นของเซรั่ม (Serum)
ถึงแม้ว่าเซรั่มและครีมบำรุงผิวหน้าจะเป็นสกินแคร์ที่มีหน้าที่ในการบำรุงผิวและเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าเหมือนกัน แต่ทั้งสองผลิตภัณฑ์ก็มีความโดดเด่นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยเราจะมาเริ่มดูกันที่จุดเด่นของเซรั่มกันก่อน
🟣 เซรั่มจะเน้นการบำรุงฟื้นฟูแก้ไขปัญหาผิวที่ตรงจุด
🟣 สารบำรุงต่าง ๆ ในเซรั่มจะมีความเข้มข้นกว่ามาก ด้วยปริมาณเซรั่มเพียงแค่ 2 – 3 หยด ก็สามารถบำรุงผิวทั้งใบหน้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
🟣 เนื้อสัมผัสของเซรั่มมีความเบาบางกว่าเนื้อครีม ทว่ามีความเข้มข้นและประสิทธิภาพมากกว่า อีกทั้งยังสามารถซึมซาบลงสู่ผิวได้ไวกว่าอีกด้วย
เคล็ดไม่ลับทดสอบผิวกับเซรั่ม: ด้วยความที่เซรั่มนั้นมีความเข้มข้นของสารบำรุงสูง เลยอาจเป็นไปได้ที่จะเกิดการระคายเคืองกับผิวหน้าของเราได้ง่าย ทางพาเพลินขอแนะนำวิธีการทดสอบเซรั่มกับสาว ๆ ก่อนใช้งานจริง โดยวิธีการทดสอบก็คือ การลองทาเซรั่มลงบนบริเวณใต้ท้องแขน เพราะผิวบริเวณนี้เป็นผิวที่บอบบางคล้ายกับผิวหน้า หากทาเซรั่มทิ้งไว้แล้วเกิดอาการระคายเคืองหรือขึ้นผื่นแดง แสดงว่าเราอาจจะแพ้เซรั่มตัวนั้นหรือสารบางอย่างในเซรั่มได้
จุดเด่นของครีมบำรุงผิวหน้า (Cream)
ครีมบำรุงผิวหน้า เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมประกอบไปด้วยน้ำและน้ำมัน พร้อมด้วยสารบำรุงต่าง ๆ ผ่านกระบวนการรวมเข้าผสมผสานกันจนกลายเป็นเนื้อครีมข้น มีเนื้อสัมผัสที่หนาแน่นกว่าเซรั่มอย่างชัดเจน โดยจุดเด่นของครีมบำรุงผิวหน้ามีดังนี้
🟢 เนื้อสัมผัสที่หนาแน่นและเข้มข้น มอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
🟢 หน้าที่หลักของครีมเป็นการเคลือบชั้นผิวแบบบาง ๆ เผื่อลดการสูญเสียน้ำของผิว
🟢 แม้เนื้อครีมจะหนาแน่นกว่า ทว่าความเข้มข้นของสารบำรุงในมีน้อยกว่ากันมาก เมื่อเทียบกับเซรั่มทำให้ครีมมีราคาที่ถูกกว่า
จากข้อดีข้อเด่นของสองสกินแคร์นี้ทำให้เห็นว่าทั้งเซรั่มและครีมบำรุงผิวต่างก็มีจุดเด่นและข้อดีที่แตกต่างกันออกไป ในส่วนของการเลือกใช้ สาว ๆ ก็สามารถพิจารณาได้ตามความเหมาะสมได้เลย
วิธีการเลือกเซรั่มให้เหมาะกับสภาพผิว
ตอบลบสกินแคร์ที่เรียกว่าเซรั่ม (Serum) นั้นมีหลายประเภท เช่นเดียวกันกับสภาพผิวบนใบหน้าของคนเรา การเลือกใช้เซรั่มที่เหมาะกับสภาพผิวของเราจะช่วยบำรุงผิวหน้าของสาว ๆ อย่างเราได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยวันนี้เรามีวิธีเลือกเซรั่มให้เหมาะสมกับสภาพผิวมานำเสนอให้สาว ๆ ได้รับรู้กันอีกด้วย วิธีการเลือกมีดังนี้
วิธีการใช้เซรั่มอย่างมีประสิทธิภาพ
สภาพผิวหน้ามัน
ผิวหน้ามันคือผิวที่มีน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้ามาก ปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นกับผิวหน้ามันก็คือความมันเยิ้มตลอดทั้งวัน และปัญหาเครื่องสำอางไม่ติดหน้าหรือหลุดบ่อย ๆ นอกจากนี้ยังเป็นผิวหน้ามันยิ่งเป็นสภาพผิวที่เกิดสิวได้ง่ายกว่าสภาพผิวอื่น ๆ อีกด้วย การเลือกใช้เซรั่มสำหรับสภาพผิวหน้ามันนั้น ควรเลือกใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของ ซิงค์ เพื่อช่วยลดการเกิดสิว กรดซาลิไซลิก หรือทรีทีออยล์ ที่จะช่วยลดความมันบนผิวหน้าของเรา
สภาพผิวหน้าแห้ง
ผิวหน้าแห้งจะมีความตรงกันข้ามกับผิวหน้ามัน คือสภาพผิวที่มีน้ำมันบนผิวหน้าน้อย ทำให้เกิดอาการหน้าลอกเป็นขุย มีปัญหาผิวหยาบกร้านและอาการคันยุบยิบ การเลือกใช้เซรั่มสำหรับสภาพผิวหน้าแห้ง ควรเลือกใช้เซรั่มที่มีส่วนผสมของวิตามิน อี หรือเซรั่มที่มีสารช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว นอกจากนี้ยังควรใช้มอยเจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นเข้าไปอีกขั้นด้วย
สภาพผิวหน้าธรรมดา
เป็นสภาพผิวที่มีความปกติทั่วไป ไม่มีปัญหาเรื่องความมันที่มากหรือน้อยจนเกินไป ควรเลือกใช้เซรั่มสูตรที่ช่วยปรับสมดุลผิวหน้าเพื่อบำรุงรักษาผิวหน้าให้มีสุขภาพดีดูอ่อนเยาว์
สภาพผิวแพ้ง่าย
ผิวแพ้ง่ายเป็นสภาพผิวที่บอบบางต่อสารเคมีต่าง ๆ เป็นพิเศษ ควรที่จะเลือกใช้เซรั่มที่ไม่มีส่วนประกอบของสารที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิว เช่น พาราเบน หรือ แอลกอฮอล์ ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดอาการแพ้เซรั่มได้
วิธีใช้เซรั่มให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
นอกจากการเลือกใช้เซรั่มให้ถูกประเภทและเหมาะสมกับสภาพผิวแล้ว วิธีการใช้เซรั่มที่ถูกต้องก็จะช่วยให้เราดึงประสิทธิภาพสูงสุดของเซรั่มออกมาอีกด้วย โดยวิธีการใช้เซรั่มมีลำดับขั้นตอนดังนี้
1.ทำความสะอาดผิวให้เรียบร้อย
เริ่มจากการทำความสะอาดผิวหน้าให้เรียบร้อย โดยการล้างและเช็ดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออกจากผิวหน้าด้วยความอ่อนโยน ไม่รุนแรงจนเกินไป ไม่งั้นอาจจะทำให้ผิวหน้าระคายเคืองได้
2.ลงเซรั่มขณะผิวกำลังชื้น
ช่วยเวลาที่ผิวหน้ากำลังชื้นเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการลงเซรั่มมากที่สุด เพราะจะช่วยให้สารบำรุงในเซรั่มซึมซาบลงสู่ผิวได้ดีกว่าตอนผิวหน้าแห้ง
3.ใช้เซรั่มเพียง 2-3 หยดบำรุงทั่วทั้งหน้า
โดยการลงเซรั่มจะบีบเซรั่มจากหลอดเพียง 2 ถึง 3 หยด จากนั้นใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเซรั่มให้ทั่วบริเวณหน้า ให้เนื้อเซรั่มกระจายไปทั่วทั้งใบหน้าและลำคอ
4.ทามอยส์เจอไรเซอร์ หรือสกินแคร์อื่น ๆ
หลังจากทาเซรั่มและเกลี่ยให้ทั่วใบหน้าแล้ว ควรรอสัก 5 นาที เพื่อให้สารบำรุงต่าง ๆ ซึมเข้าสู่ผิวจากนั้นถึงทามอยเจอไรเซอร์ การทำขั้นตอนเช่นนี้จะช่วยให้มอยเจอไรเซอร์ล็อกความชุ่มชื้นของผิวไว้ได้ และหลังจากนั้นค่อยทาสกินแคร์อื่น ๆ ที่มีความหนาแน่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ
สรุป
เซรั่ม (Serum) คือสุดยอดสกินแคร์ประเภทของเหลว หรือกึ่งของเหลวที่อุดมไปด้วยสารบำรุงผิวสูตรเข้มข้น ที่ใช้เพียงแค่ไม่กี่หยด ก็สามารถช่วยบำรุงฟื้นฟูผิวหน้าและมอบความชุ่มชื้นให้แก่ใบหน้าของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเซรั่มนั้นมีประเภทต่าง ๆ มากมายที่เหมาะสมกับแต่ปัญหาผิวและสภาพผิว การเลือกเซรั่มที่เหมาะสมกับสภาพผิวและใช้วิธีการทาเซรั่มที่ถูกต้องจะช่วยให้เซรั่มได้ทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยบำรุงให้ผิวหน้าของสาว ๆ ออกมาสวยงาม มั่นใจ พร้อมลุยไปกับหน้าสวยกระจ่างใสในทุกวัน
5 ที่ต้องรู้ เซรั่มหน้าใส บำรุงผิวหน้า กระชับรูขุมขน
ตอบลบเซรั่ม (Serum) ตัวช่วยสำคัญในการบำรุงผิวหน้าใส ด้วยส่วนผสมเข้มข้นในการดูแลผิว หน้าใสไร้สิว ขจัดความหมองคล้ำ ผิวขาวใส ผิวกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย ฟื้นฟูยกกระชับ ลดจุดด่างดำ กระชับรูขุมขน ผสานคุณค่าบำรุงนานัปการ เพื่อให้ได้ “เซรั่ม” ประเภทต่าง ๆ อาทิ เซรั่มวิตามินซี เซรั่มวิตามินอี เซรั่มคอลลาเจน เซรั่มไฮยาลูรอน เป็นต้น
1.เซรั่มหน้าใส คืออะไร?
เซรั่มหน้าใส เป็นผลิตภัณฑ์สกินแคร์ ดูแลผิวหน้ากระจ่างใส ในรูปแบบที่อุดมไปด้วยสารอาหารบำรุงผิวที่เข้มข้น มีขนาดโมเลกุลเล็กมาก “เซรั่ม” จะมีลักษณะเหลวไปจนถึงกึ่งเหลว เกลี่ยกลมกลืนกับผิวได้ง่าย อาจจะมีความใส ความขุ่น หรือมีสีต่างๆ ขึ้นอยู่กับส่วนผสมและสารสกัดที่ผสานอยู่ในเซรั่มแต่ละสูตร ด้วยขนาดโลกุลที่เล็กของ “เซรั่ม” จึงทำให้เนื้อสัมผัสมีความบางเบากว่าสกินแคร์ประเภทอื่น สามารถซึมซาบล้ำลึกเข้าสู่ชั้นผิวได้ง่ายและรวดเร็วกว่า
2.เซรั่ม มีประโยชน์อย่างไร?
เซรั่ม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกคิดค้นมาเพื่อจัดการกับปัญหาผิวที่อยู่ลึกลงไปในชั้นผิว ในระดับโครงสร้างผิว เช่น ปัญหาสีผิวหมองคล้ำ ปัญหาริ้วรอย จุดด่างดำ ฝ้ากระ ปัญหารอยสิว ปัญหารอยดำ รอยแดงจากสิว ผลิตภัณฑ์ประเภท “เซรั่ม” จะเป็นส่วนสำคัญของโปรแกรมรักษาผิวหน้าใส เพื่อต่อต้านปัญหาผิวต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
3.ข้อดีของ เซรั่ม
เซรั่ม เน้นการฟื้นฟูบำรุงแก้ไขปัญหาผิวเฉพาะจุดได้โดยตรง
เซรั่ม ประกอบด้วยสารบำรุงผิวต่อหยดที่เข้มข้นมาก จึงช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เซรั่ม ซึมซาบเร็วและลงลึก จึงทำให้มีความสามารถในการบำรุงผิวจากภายในสู่ภายนอก
เซรั่ม มีความเบาบาง ไม่เหนียวเหนอะเหนอะ ทำให้มีโอกาสน้อยมากในการเกิด สิวอุดตัน
เซรั่ม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์อื่น เช่น เอสเซ้นส์ หรือ มอยส์เจอไรเซอร์ที่ใช้ร่วมด้วย
4.ประเภทของ “เซรั่ม”
เซรั่ม ช่วยปรับผิวขาวกระจ่างใส ลบเลือนจุดด่างดำ (Skin-Brightening Serum)
เซรั่ม ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว (Hydrating Serum)
เซรั่ม ช่วยลดเลือนริ้วรอย (Anti-Aging Serum)
เซรั่ม ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง (Renewing Serum)
เซรั่ม ช่วยกระชับรูขุมขน (Pore Tightening Serum)
เซรั่ม ช่วยป้องกันสิวอุดตัน และลดรอยดำจากสิว (Anti-Acne Serum)
เซรั่ม ช่วยควบคุมความมันส่วนเกินของผิว (Oil Control Serum)
เซรั่ม ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว (Exfoliating Serum)
5.วิธีดูแลผิวหน้าด้วย “เซรั่ม”
ล้างทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจด
เนื่องจาก “เซรั่ม” เป็นสกินแคร์ที่มีโมเลกุลขนาดเล็กมาก เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการดูดซึมเข้าสู่ผิวหน้าที่ดีที่สุด เราจึงควรทำความสะอาดผิวหน้าให้เรียบร้อย ขจัดสิ่งสกปรกที่ติดค้างอยู่บนผิวหน้า เช่น เครื่องสำอาง ความมัน เหงื่อไคล ที่อุดตันรูขุมขนด้วย คลีนซิ่ง และ คลีนเซอร์ ให้สะอาดหมดจด
ทา เซรั่มหน้าใส บำรุงผิว ขณะที่ผิวกำลังชื้น
ผิวหน้าที่กำลังชื้นจะช่วยให้ “เซรั่ม” ซึมลึกผ่านชั้นผิวได้ง่ายกว่าผิวที่แห้งได้หลายเท่า ดังนั้นเราจึงควรทาเซรั่มหลังจากล้างหน้าหรือหลังการใช้โทนเนอร์ทันที
ทา เซรั่มหน้าใส ในปริมาณพอเหมาะ สำหรับการบำรุงทั่วใบหน้า
เซรั่มมีโมเลกุลขนาดเล็กและมีความเข้มข้นสูงมาก ดังนั้นใช้ปริมาณเพียงแค่ 2-3 หยด ก็เพียงพอต่อความต้องการบำรุงทั่วทั้งใบหน้า เราเพียงแค่ต้องเกลี่ยเนื้อเซรั่มให้กระจายเท่ากันทั่วทั้งใบหน้า
ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวประเภทอื่นหลังลงเซรั่มได้ทันที
หากเราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหลายประเภท เราควรใช้ “เซรั่ม” บำรุงผิวเป็นลำดับแรก เนื่องจากเซรั่มจะมีความเบาบางมากกว่าสกินแคร์ประเภทอื่น การทาสกินแคร์อื่นๆที่เนื้อหนักกว่าก่อนเซรั่ม จะทำให้เซรั่มไม่สามารถซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ดีเท่าที่ควร